วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 8
วันจันทร์ ที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2561
เวลา 08.30 - 11.30 น.


เนื้อหาการเรียน
                            สาระที่ควรเรียนรู้ ที่ได้กำหนดเป็นหัวข้อใหญ่ๆ เพื่อให้ครูจัดการเรียนการสอนตามบริบท ครูสามารถเลือกเนื้อหาตามบริบทของท้องถิ่น
1. เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก
เด็กควรรู้จักชื่อ นามสกุล รูปร่าง หน้าตาของตน รู้จักอวัยวะต่างๆ และวิธีระวังรักษาร่างกายให้สะอาด ปลอดภัย มีสุขอนามัยที่ดี เรียนรู้ที่จะเล่นและ ทำสิ่งต่างๆด้วยตนเองคนเดียวหรือกับผู้อื่น ตลอดจนเรียนรู้ที่จะแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และแสดงมารยาทที่ดีทั้งนี้ เมื่อเด็กมีโอกาสเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตนเองแล้ว เด็กควรจะเกิดแนวคิดดังนี้
ฉันมีชื่อตั้งแต่เกิด ฉันมีเสียง รูปร่างหน้าตาไม่เหมือนใคร ฉันภูมิใจที่เป็น ตัวฉันเองเป็นคนไทยที่ดี มีมารยาท มีวินัย รู้จักแบ่งปัน ทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง เช่น แต่งตัว แปรงฟัน รับประทานอาหาร  ฯลฯ          
ฉันมีอวัยวะต่างๆ  เช่น ตา หู จมูก ปาก  ขา  มือ  ผม นิ้วมือ  นิ้วเท้า ฯลฯ และ ฉันรู้จักวิธีรักษาร่างกายให้สะอาด  ปลอดภัย  มีสุขภาพดี
ฉันต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ออกกำลังกายและพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต
ฉันเรียนรู้ข้อตกลงต่างๆรู้จักระมัดระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นเมื่อทำงาน   เล่นคนเดียวและเล่นกับผู้อื่น
ฉันอาจรู้สึกดีใจ เสียใจ โกรธ  เหนื่อยหรืออื่นๆ แต่ฉันเรียนรู้ที่จะแสดงความรู้สึกในทางที่ดี และเมื่อฉันแสดงความคิดเห็นหรือทำสิ่งต่างๆด้วยความคิดของตนเองแสดงว่าฉันมีความคิดสร้างสรรค์ ความคิดของฉันเป็นสิ่งสำคัญ แต่คนอื่นก็มีความคิดที่ดีเหมือนฉันเช่นกัน
2. เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก
                        เด็กควรได้มีโอกาสรู้จักและรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน รวมทั้งบุคคลต่างๆที่เด็กต้องเกี่ยวข้อง หรือมีโอกาสใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ เมื่อเด็กมีโอกาสเรียนรู้แล้วเด็กควรเกิดแนวคิด ดังนี้
                       ทุกคนในครอบครัวของฉันเป็นบุคคลสำคัญ ต้องการที่อยู่อาศัย  อาหาร  เสื้อผ้า  และยารักษาโรค  รวมทั้งต้องการความรัก  ความเอื้ออาทร  ช่วยดูแลซึ่งกันและกัน  ช่วยกันทำงานและปฏิบัติตามข้อตกลงภายในครอบครัว  ฉันต้องเคารพ เชื่อฟังพ่อแม่และผู้ใหญ่ในครอบครัว  ปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามกาลเทศะ  ครอบครัวของฉันมีวันสำคัญต่างๆ  เช่น  วันเกิดของบุคคลในครอบครัว  วันทำบุญบ้าน ฯลฯ  ฉันภูมิใจในครอบครัวของฉัน 
                       สถานศึกษาของฉันมีชื่อเป็นสถานที่ที่เด็กๆมาทำกิจกรรมร่วมกันและทำให้ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย สถานศึกษาของฉันมีคนอยู่ร่วมกันหลายคน ทุกคนมีหน้าที่ รับผิดชอบ ปฏิบัติตามกฏระเบียบ ช่วยกันรักษาความสะอาดและทรัพย์สมบัติของสถานศึกษา  ส่วนครูรักฉันและเอาใจใส่ดูแลเด็กทุกคน เวลาทำกิจกรรมฉันและเพื่อนจะช่วยกันคิด ช่วยกันทำ รับฟังความคิดเห็น และรับรู้ความรู้สึกซึ่งกันและกัน
                       ท้องถิ่นของฉันมีสถานที่ บุคคล แหล่งวิทยากร แหล่งเรียนรู้ต่างๆที่สำคัญ คนในท้องถิ่นที่ฉันอาศัยอยู่มีอาชีพที่หลากหลาย  เช่น ครู แพทย์ ทหาร ตำรวจ ชาวนา ชาวสวน พ่อค้า แม่ค้า ฯลฯ ท้องถิ่นของฉันมีวันสำคัญของตนเอง  ซึ่งจะมีการปฏิบัติกิจกรรมที่แตกต่างกันไป
                      ฉันเป็นคนไทย มีวันสำคัญของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ มี วัฒนธรรม  ขนบธรรมเนียมประเพณีหลายอย่าง ฉันและเพื่อนนับถือศาสนา หรือมีความเชื่อที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันได้ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ฉันภูมิใจที่ฉันเป็นคนไทย
3. ธรรมชาติรอบตัว
                         เด็กควรจะได้รู้จักสิ่งมีชีวิตที่เป็นต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์ รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของโลกที่แวดล้อมเด็กตามธรรมชาติ เช่น ฤดูกาล กลางวัน กลางคืนฯลฯ แนวคิดที่ควรให้เกิดหลังจากเด็กเรียนรู้ธรรมชาติรอบตัว  มีดังนี้
                         ธรรมชาติรอบตัวฉันมีทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต สิ่งมีชีวิตต้องการอากาศ แสงแดด น้ำและอาหารเพื่อเจริญเติบโต  สิ่งมีชีวิตสามารถปรับตัวให้เข้ากับลักษณะอากาศ ฤดูกาล และยังต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน  สำหรับสิ่งไม่มีชีวิต  เช่น น้ำ หิน ดิน ทรายฯลฯ  มีรูปร่าง สี ประโยชน์และโทษต่างกัน
                      ลักษณะอากาศรอบตัวแต่ละวันอาจเหมือนหรือแตกต่างกันได้  บางครั้งฉันทายลักษณะอากาศได้จากสิ่งต่างๆรอบตัว เช่น เมฆ ท้องฟ้า ลมฯลฯในเวลากลางวันเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนดวงอาทิตย์ตกคนส่วนใหญ่จะตื่นและทำงาน ส่วนฉันไปโรงเรียนหรือเล่น เวลากลางคืนเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ตกจนดวงอาทิตย์ขึ้น ฉันและคนส่วนใหญ่จะนอนพักผ่อนตอนกลางคืน
                         สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติรอบตัวฉัน เช่น ต้นไม้ สัตว์ น้ำ ดิน  หิน ทราย อากาศ ฯลฯ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตต้องได้รับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นรอบๆตัวฉัน เช่น บ้านอยู่อาศัย ถนนหนทาง สวนสาธารณะ สถานที่ต่างๆ ฯลฯ  เป็นสิ่งที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทุกคนรวมทั้งฉันช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรักษาสาธารณสมบัติโดย ไม่ทำลายและบำรุงรักษาให้ดีขึ้นได้
4. สิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก
เด็กควรจะได้รู้จักสิ่งของเครื่องใช้ยานพาหนะและการสื่อสารต่างๆที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันของเด็ก ทั้งนี้เมื่อเด็กมีโอกาสเรียนรู้แล้วเด็กควรเกิดแนวคิด ดังนี้
สิ่งต่างๆรอบตัวฉันส่วนใหญ่มีสี ยกเว้นกระจกใส พลาสติกใส น้ำบริสุทธิ์ อากาศบริสุทธิ์ฉันเห็นสีต่างๆด้วยตา แสงสว่างช่วยให้ฉันมองเห็นสี สีมีอยู่ทุกหนทุกแห่งที่ฉันสามารถเห็น ตามดอกไม้ เสื้อผ้า อาหาร รถยนต์และอื่นๆ สีที่ฉันเห็นมีชื่อเรียกต่างๆกัน  เช่น แดง เหลือง น้ำเงินฯลฯ สีแต่ละสีทำให้เกิดความรู้สึกต่างกัน สีบางสีสามารถใช้เป็นสัญญาณ หรือสัญลักษณ์สื่อสารกันได้
สิ่งต่างๆรอบตัวฉันมีชื่อ ลักษณะต่างๆกันสามารถแบ่งตามประเภท ชนิด ขนาด สี รูปร่าง พื้นผิว วัสดุ รูปเรขาคณิต ฯลฯ
การนับสิ่งต่างๆทำให้ฉันรู้จำนวนสิ่งของและจำนวนนับนั้นเพิ่มหรือลดได้ฉันเปรียบเทียบสิ่งของต่างๆตามขนาด จำนวน น้ำหนักและจัดเรียงลำดับสิ่งของต่างๆตามขนาด ตำแหน่ง ลักษณะที่ตั้งได้
คนเราใช้ตัวเลขในชีวิตประจำวัน  เช่น  เงิน  โทรศัพท์  บ้านเลขที่ ฯลฯ ฉันรวบรวมข้อมูลง่าย ๆนำมาถ่ายทอดให้ผู้อื่นเข้าใจได้โดยนำเสนอด้วยรูปภาพ แผนภูมิ แผนผัง แผนที่ ฯลฯ
สิ่งที่ช่วยฉันในการชั่ง ตวง วัด มีหลายอย่าง เช่น เครื่องชั่ง ไม้บรรทัด สายวัด ถ้วยตวง ช้อนตวง เชือก วัสดุ  สิ่งของอื่นๆ บางอย่างฉันอาจใช้การคาดคะเนหรือกะประมาณ
เครื่องมือเครื่องใช้มีหลายชนิดและหลายประเภท เช่น เครื่องใช้ในการทำสวนการก่อสร้าง เครื่องใช้ภายในบ้านฯลฯ คนเราใช้เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน  แต่ขณะเดียวกันต้องระมัดระวังในเวลาใช้เพราะอาจเกิดอันตรายและเกิดความเสียหายได้ถ้าใช้ผิดวิธีหรือใช้ผิดประเภท  เมื่อใช้แล้วควรทำความสะอาด และเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ฉันเดินทางจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งได้ด้วยการเดินหรือใช้ยานพาหนะ พาหนะบางอย่างที่ฉันเห็นเคลื่อนที่ได้โดยการใช้เครื่องยนต์ ลม ไฟฟ้าหรือคนเป็นผู้ทำให้เคลื่อนที่คนเราเดินทางหรือขนส่งได้ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ พาหนะที่ใช้เดินทาง เช่น รถยนต์ รถเมล์ รถไฟ  เครื่องบิน  เรือ  ฯลฯ  ผู้ขับขี่จะต้องได้รับใบอนุญาตขับขี่และทำตามกฎจราจรเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และฉันต้องเดินบนทางเท้า ข้ามถนนตรงทางม้าลาย สะพานลอย หรือตรงที่มีสัญญาณไฟ เพื่อความปลอดภัยและต้องระมัดระวังเวลาข้าม
ฉันติดต่อสื่อสารกับบุคคลต่างๆได้หลายวิธี เช่น โดยการไปมาหาสู่ โทรศัพท์ โทรเลข จดหมาย จดหมายอิเลคทรอนิคส์ ฯลฯ และฉันทราบข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ รอบตัวด้วยการสนทนา ฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์และอ่านหนังสือ หนังสือเป็นสื่อในการ ถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึกไปยังผู้อ่าน ถ้าฉันชอบอ่านหนังสือ ฉันก็จะมีความรู้ ความคิดมากขึ้น ฉันใช้ภาษาทั้งฟัง พูด  อ่าน  เขียน เพื่อการสื่อความหมายในชีวิตประจำวัน
                            - การเลือกเรื่องที่จะสอน
1. ใกล้ตัวเด็ก
2. มีผลกระทบต่อเด็ก
                            - เมื่อได้หัวเรื่องแล้ว จัดทำ Mind Mapping เพื่อเป็นการแตกความคิดโดยการคิดวิเคราะห์ไปสู่การบูรณาการ
                            - การบูรณาการ สาระต่างๆทั้ง 6 สาระ ดังนี้ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษา ศิลปะ สุขศึกษา และสังคมศึกษา
คณิศาสตร์  : ดูจากกรอบมาตรฐาน


วิทยาศาสตร์ : เนื้อหาสาระจากวิทยาสตร์



ภาษา : ภาษาทั้งการฟัง การพูด การอ่านและการเขียน เช่น การเล่าประสบการณ์เดิม



สังคมศึกษา : ทักษะทางสังคม คุณธรรม 12 ประการ



                            - กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม จัดกิจกรรมในรูปแบบบูรณาการ
การบูรณาการ เป็นลักษณะของความสัมพันธ์ของเรื่องต่างๆ
การบูรณาการ จะไปผ่านกิจกรรมเพื่อตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลของเด็กทั้ง 6 กิจกรรม
การเรียนรู้ คือ พฤติกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลง
การเล่น คือ กิจกรรมที่ลงมือกระทำโดยเด็กได้เลือกและตัดสินใจ

                           - กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
              วัตถุประสงค์ของการเคลื่อนไหว
1. การฟังและปฏิบัติตามคำสั่ง
2. การเคลื่อนไหวตามข้อตกลง
3. การเคลื่อนไหวแบบผู้นำ ผู้ตาม
4. การเคลื่อนไหวประกอบเพลง
5. การเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย
6. การเคลื่อนไหวแบบความจำ
               การเคลื่อนไหวพื้นฐาน คือ การเดิน การวิ่ง การก้าว การกระโดดทั้งขาเดียวและสองขา เป็นการกำกับด้วยจังหวะ จังหวะปกติ จังหวะเร็วหรือรัว จังหวะช้าและจังหวะหยุด (ควรเคาะจังหวะปกติก่อนแล้วจึงเคาะจังหวะช้า จังหวะเร็วหรือรัว) เช่น ให้เด็กๆเดินด้วยปลายเท้าตามจังหวะที่ครูเคาะ , ให้เด็กๆเดินด้วยส้นเท้าตามจังหวะที่ครูเคาะ
               การเคลื่อนไหวแบบสัมพันธ์เนื้อหา คือ การเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เช่น ครูร้องเพลงแมวแล้วเด็กๆเต้น , ครูบรรยานให้เด็กๆประกอบท่าทาง , ครูกำหนดมุมแล้วให้เด็กๆไปที่มุมนั้น



ทักษะที่ได้รับ
                        - ทักษะการคิด                     
                        - ทักษะการวางแผน
                        - ทักษะการแก้ไขปัญหา
                     
การประยุกย์ใช้
                        - นำไปใช้ในการวางแผนการเรียนการสอน

บรรยากาศภายในห้องเรียน
                         - อากาศเย็น แสงส่องเข้ามาในห้องเรียนพอสมควร

ประเมินตนเอง
                        ตั้งใจฟังอาจารย์
                        - ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมเป็นอย่างดี

ประเมินเพื่อน
                       - เพื่อนๆทุกคนให้ความร่วมมือกับกิจกรรมเป็นอย่างดี

ประเมินอาจารย์
                        - แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
                        - มีน้ำเสียงที่น่าฟัง พูดเสียงดังฟังชัด


            

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น